Sunday, November 05, 2006

โมงยามของความเยาว์

Picture : K.Staikidis



หนึ่ง
...ยังอยู่ในโมงยามของความเยาว์
โมงยามที่เรายังเขลาและขลาด
หลงว่าลึก แท้ตื้นเขินเกินคาด
เราวาดภาพบางภาพ ไม่ทราบที่มา

เป็นภาพที่...เราคิดเองละเลงสี
เรารู้สึกปีติ-กระทั่งว่า...
ปลายพู่กันมือปาดสีบาดตา
เรารู้สึกจริงยิ่งกว่าจินตนาการ

มีเพลงบางเพลงเคยเร่งเร้า
จะฟังก่อนเข้าหลับช่วยขับขาน
และบางคืนอาจเรื่องเดิมเคลิ้มนิทาน
สงสัยในทุกตำนาน-โบราณคัมภีร์

มีบ้าง-บางของเล่นเห็นเป็นจริง
แต่ก็ขว้างทิ้งไป-ไม่ทันซีดสี
เช่นกันที่มีบ้างในบางที
เราล้อเล่นกับชีวิตจริงจริง

ในโมงยามความเยาว์,เราหัวเราะ
ยินทุกทุกคำเยาะไพเราะยิ่ง
ยิ้มกับทุกใบหน้าแม้ชังชิง
บางสิ่ง-ยากแยกออกหมอกหรือควัน

สอง
เห็นขบวนแห่ผ่านหน้าบ้านสนานร่วม
โอ...โลกสวมผ้าเนื้อดี หลากสีสัน
ดนตรี กลองยาวย้ำ รำประชัน
คนนั้นสวยไม่เบา คนเมาเซ

เพลงนั้น กระชั้นดังฟังแปลก-ทว่า
เร้าเราเสียยิ่งกว่าย่ากล่อมเห่
เราอาจรำไปไกลกว่าไกวเปล
และร่อนเร่ไม่กลับหลัง คืนฝั่งคอย...

สาม
ในโมงยามความเยาว์-เราพบว่า...
บางชนิดสินค้าดีมีปลีกย่อย
บางความผิดพลาดบาดแผลพร้อย
เจ็บในทุกริ้วรอย ค่อยค่อยรู้

บางผลึกเคี่ยวนานก่อนพานพบ
การเรียนที่ไม่รู้จบพามาสู่
ใจกล้าจะหยัดทานทุกกาลฤดู
เรารักจะอยู่ท่ามโมงยามเช่นนี้...

โมงยามที่ยี่สิบห้าของชีวิต
คลองทับช้างล่าง กรุงเทพกรีฑา,มหานคร : ๒๕๔๑

No comments: