Monday, October 16, 2006

ศพผีเสื้อ



ผ่านทางมาพบเมื่อพลบค่ำ
ในระยะที่เท้าย่ำแรงถั่งโถม
แสงหม่นลำสุดท้ายฉายประโลม
มโหรีโหมโรง-มรณกรรม

งามเคยงามทุกสีปีกผีเสื้อ
มาหมองหม่นซีดจางเมื่อคว้างคว่ำ
เงื้อมเงาแห่งราตรีมีเงื่อนงำ
ให้ร่างงามถูกย้ำเป็นตำนาน



ปีกบางพาเจ้าบินจากถิ่นไหน
จุดหมายอยู่แห่งใดในหย่อมย่าน
หลงทางบ้างไหมกับมายาการ
หรือเพียงผ่านทางมา-เพื่อจะรู้

เพื่อรู้ว่า...โลกนี้มีหลายด้าน
เกินกำหนดปรากฏการณ์ทุกนาน,ครู่
ที่คอยเร้าวิญญาณ ณ บานประตู
คือชื่นกลิ่น,บานอยู่-มวลดอกไม้

สะพรั่งบานเต็มลานอุทยานฝัน
แสงวันเอยเคยเย้าอยู่พราวไหว
ผุดพร่างและผลิค่าเต็มตาใจ
จูบแผ่วอยากฝากให้ทุกดอกโดน

จึงที่นั่น,ชั่วปีกหนึ่งมาถึงที่นี่
เพื่อรู้หวานไม่ได้ดีกว่าที่โน่น
เพื่ออีกหวังสู้ทุ่งฝันอันไกลโพ้น
แม้โชกโชนเกิด,ตายมิอาจได้พบ

ที่ปีกเคยบินว่อนจึงเปล่าว่าง
ที่สุดนอนทอดร่างอย่างสงบ
จินตภาพแห่งดอกไม้ลบ,ไม่ลบ
ขณะเคลื่อนแห่งคืนพลบ-ข้าขบคิด

ลมรี่มาริกริกพอพลิกร่าง
เบาปีกบางถูกฉีกอย่างต่อไม่ติด
แต่หวังคงยืนค่ากว่าชีวิต
ภารกิจวิญญาณยาวนานนัก

งามเคยงามทุกสีปีกผีเสื้อ
ลายเส้นเรื่อสีโศกอันโลกสลัก
เพียงเกสร,สายลมเห่บ่มฟัก
ทีละวรรค ทุกวรรคจึงมีชีวิต.
มหานคร : กันยายน, ๒๕๓๘

No comments: